สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เป็นประโยคที่ใช้เตือนใจเวลาที่เราได้ยินการเล่าเรื่องต่อ ๆ กันมาว่าเรื่องราวเหล่านั้นอาจถูกบิดเบือนไปจนแทบจะไม่เหลือความจริง การได้เห็นด้วยตาของตนเองนั้นจึงจะมีความแม่นยำมากกว่า เช่นเดียวกับในภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมือง ที่เป็นเรื่องราวการสืบสวนคดีความโดยการบอกเล่าเหตุการณ์จากพยานต่าง ๆ
ความน่าสนใจของการนำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่พยานแต่ละคนนั้นเล่าเรื่องเดียวกันให้ออกมากลายเป็นคนละเรื่องได้อย่างหน้าตาเฉย จนทำให้เราควรรับชมต้องคิดว่าใครที่เป็นคนโกหกกันแน่
– เรื่องราวการโกหกภายในภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมือง
เรื่องราวทั้งหมดนั้นเริ่มต้นจากการที่ขุนศึกพร้อมภรรยาของเขาได้เดินทางโดยขบวนเสลี่ยงผ่านป่า ระหว่างทางได้มีโจรป่าคนหนึ่งเข้ามาขัดขวางขบวนพร้อมนำเสนอขายดาบเงินโดยออกอุบายให้ขุนศึกนั้นเดินทางไปยังริมอุโมงค์ผาเมืองกับตนเอง ภรรยาของขุนศึกจึงได้ออกจากขบวนมาเพื่อชมนกชมไม้ก่อนที่จะพบว่าโจรป่านั้นได้วิ่งหน้าตื่นมาบอกว่าขุนศึกนั้นได้รับบาดเจ็บ ด้วยความเป็นห่วงสามีเธอจึงได้รีบตามโจรป่าไปแต่ภาพที่เธอเห็นกลับเป็นสามีของเธอถูกมัดตรึงไว้กับไม้ กว่าจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นอุบายของโจรป่าก็สายไปเสียแล้ว เธอนั้นถูกขืนใจต่อหน้าสามี
พอโจรป่าเสร็จสมอารมณ์หมายก็เกิดเรื่องราวขึ้นจนทำให้ขุนศึกนั้นถึงแก่ชีวิต ทหารสามารถจับตัวโจรป่าได้ ส่วนภรรยาของขุนศึกนั้นก็สามารถเอาชีวิตรอดออกมาจากป่าได้เช่นเดียวกัน จึงเกิดการสืบสวนคดีขึ้น แต่คำบอกเล่าทั้งจากโจรป่า ภรรยาของขุนศึก หรือขุนศึกที่มาเข้าร่างทรงต่างก็เป็นคนละเรื่องเดียวกัน หลังพิจารณาคดีจบก็ได้มีการประหารโจรป่าเพื่อเป็นการสังเวยเนื่องจากเมืองนั้นกำลังเต็มไปด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พระรูปหนึ่งซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกค้างคาใจเป็นอย่างมากถึงถึงขั้นที่ต้องการจะหาคำตอบโดยการสึกออกมา พระรูปนั้นจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปหามารดาของตนก่อนระหว่างทางเขาก็ได้พบเข้ากับคนตัดฟืนซึ่งเป็นพยานในคดีนี้เช่นเดียวกัน ประกอบกับฝนตกพอดีทั้งคู่จึงได้เข้าไปหลบอยู่ในอุโมงค์ก่อนจะพบเข้ากับสัปเหร่อและได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
– สรุปแล้วในภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมือง ใครเป็นคนโกหก
ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมืองคือทางทีมผู้สร้างนั้นไม่ได้เฉลยว่าใครกันแน่ที่เป็นคนโกหกถึง แม้ว่าบทสนทนาในตอนจบนั้นจะเหมือนกับการเฉลยกลาย ๆ ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นแท้จริงนั้นเป็นอย่างไรก็ตาม แต่หากคิดดูดี ๆ แล้วเราก็ไม่สามารถเชื่อถือได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ถูกเล่าจากปากของคนตัดฟืนอยู่ดี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เมื่อรับชมจบแล้วเรายังจะได้คบคิดต่อว่าความจริงแล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ และใครกันแน่ที่เป็นคนโกหก ถือเป็นความสนุกอีกขั้นในการรับชมภาพยนตร์
Cr.sanook.com
#รีวิวหนัง #รีวิวหนังเก่า #รีวิวหนังไทย #อุโมงค์ผาเมือง
